กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมทั่วโลก แต่บางครั้งก็มีชื่อที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์มากมายที่อาจจะไม่ค่อยได้ยินหรือรู้จักมาก่อน ในบทความนี้จะสำรวจกาแฟที่มีชื่อแปลก ๆ ที่คนบางคนอาจไม่เคยได้ยินถึงมาก่อน มาดูกันว่ากาแฟชนิดไหนบ้างที่มีชื่อที่ไม่เหมือนใครและมีลักษณะเด่นของแต่ละชนิด
กาแฟไข่แดงเวียดนาม (Cà Phê Trứng)
กาแฟชนิดนี้มาจากเวียดนาม ที่ผสมระหว่างไข่แดงดิบ, นมข้น, และกาแฟเข้มข้น เป็นที่รู้จักกันด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความละเอียดใสในการผสม เป็นเครื่องดื่มที่นิยมใช้ในการแต่งชื่อกาแฟแปลก ๆ
กาแฟไข่แดงเวียดนามหรือ Cà Phê Trứng เป็นเครื่องดื่มที่มีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม โดยมีวัตถุดิบหลักคือไข่แดงดิบ, นมข้นหวาน, และกาแฟเข้มข้น การผสมรวมกันจะได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และความเข้มข้นที่พิเศษ มาดูขั้นตอนการทำกันครับ:
ส่วนประกอบ
- กาแฟดำเข้ม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1/4 ถ้วย
- นมข้นหวาน 2-3 ช้อนโต๊ะ (ตามความชอบ)
- ไข่แดงดิบ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
ขั้นตอนการทำ
- เตรียมกาแฟ: ตั้งเครื่องชงกาแฟด้วยน้ำร้อน 1/4 ถ้วย ให้เข้มข้นตามความชอบ แล้วเติมลงในแก้วที่ใช้เสิร์ฟ
- เตรียมไข่แดง: ใช้เฟือกตีไข่ (หรือช้อนตี) ตีไข่แดงดิบให้เป็นโฟมใส ๆ จนขึ้นฟูเป็นฟองเล็ก ๆ
- ผสมกาแฟและนมข้น: ใส่นมข้นหวานลงในแก้วที่มีกาแฟชงแล้ว คนเบา ๆ ให้เข้ากัน
- เติมไข่แดง: ใช้ช้อนต้มเข้าไปอย่างช้า ๆ และนำไข่แดงที่ตีไว้ ใส่ลงในแก้วที่มีกาแฟและนมข้น โรยหน้าด้วยเศษไข่แดง (ตามความชอบ)
- เสิร์ฟ: เสิร์ฟกาแฟไข่แดงเวียดนามทันที และคำเตือนคือกาแฟจะเย็นเร็ว ดังนั้นควรดื่มทันทีหลังจากที่เสิร์ฟ
การทำกาแฟไข่แดงเวียดนามนั้นเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้เทคนิคในการตีไข่แดงให้พอดี และการเติมลงในกาแฟที่มีนมข้นให้ทำอย่างช้า ๆ เพื่อให้ไข่แดงลอยอยู่บนผิวกาแฟเช่นกัน
กาแฟขี้ชะมด (Kopi Luwak)
กาแฟขี้ชะมดหรือ Kopi Luwak เป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักในวงการกาแฟโลก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการพิเศษโดยให้ชะมดกินผลกาแฟแล้วรอให้มันขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา ซึ่งนับเป็นวิธีการผลิตที่มีความเป็นมาและวิถีชีวิตที่เชื่อกันมานานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เกาะชวาและเกาะสุมาตราในอินโดนีเซีย
การใช้ชะมดในการผลิตกาแฟขี้ชะมดมีเหตุผลหลักอยู่ที่ชะมดมักจะเลือกกินแต่ผลกาแฟที่ได้มาตามธรรมชาติและดีที่สุด ซึ่งทำให้กาแฟที่ได้มีคุณภาพและรสชาติที่พิเศษ นอกจากนี้ระบบย่อยอาหารของชะมดยังมีความพิเศษในการลดปริมาณคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟ ซึ่งทำให้กาแฟขี้ชะมดมีรสชาติที่นุ่มนวลและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ในทางราคากาแฟขี้ชะมดมีราคาสูงมาก เนื่องจากกระบวนการผลิตที่อลังการและอาจพบได้ว่าราคาของกาแฟขี้ชะมดอาจถึงกว่า 1,000 – 2,400 บาทต่อแก้ว และแพงกว่า 100,000 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป ดังนั้นการสั่งชงกาแฟขี้ชะมดมักจะเป็นที่น่าสนใจและได้รับความนิยมจากผู้ชื่นชอบกาแฟที่ต้องการประสบการณ์ทางรสชาติที่พิเศษ
กาแฟใส่ชีส (Kaffeeost)
ประสบการณ์การดื่มกาแฟใส่ชีสหรือ Kaffeeost เป็นเรื่องที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในบางภูมิภาคของโลก เป็นเมนูที่มีกาแฟร้อนถูกชงลงไปในชีส โดยที่ชีสจะถูกนำมาอบหรือเผาเล็กน้อย เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นของชีสไปพร้อมกับกาแฟ. เมนูนี้มีรากฐานมาจากประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ ที่เน้นการผสมผสานรสชาติอาหารท้องถิ่นเข้ากับกาแฟอย่างลงตัว.
การทำ Kaffeeost นั้นมักใช้ French Press ในการชงกาแฟร้อน โดยกาแฟจะถูกชงลงไปในแก้วพร้อมกับชีส Leipäjuusto ที่มีความหอมและรสชาติที่พิเศษ การนำกาแฟร้อนมาเทลงในชีสที่มีโครงสร้างเนื้อชั้นในเป็นเนื้อๆ จะช่วยให้กาแฟและชีสประสานกันได้ดีขึ้น เมื่อชีสได้รับความร้อนจากกาแฟ จะทำให้ชีสนุ่มละมุนและมีรสชาติที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น.
ประสบการณ์การดื่ม Kaffeeost ไม่เพียงแต่เป็นการดื่มกาแฟและชีสร่วมกัน แต่ยังเป็นการร่วมสัมผัสกับวัฒนธรรมและรสชาติของท้องถิ่นที่ลึกซึ้ง ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและชีสที่มีรสนุ่มนวล ควรลองประสบการณ์นี้อย่างแน่นอน เพื่อได้รับความสนุกสนานและประทับใจที่แตกต่างจากเมนูกาแฟทั่วไป
กาแฟทูบา (Touba Coffee)
กาแฟทูบาเป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะเฉพาะและมีกลิ่นหอมที่น่าติดใจอย่างไม่ซ้ำใคร มันเป็นกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเซเนกัล แม้ว่ามันจะมีลักษณะที่ดูไม่ว้าวและอาจไม่โดดเด่นตามลักษณะธรรมดาของกาแฟ แต่รสชาติของมันกลับออกมาแบบที่ไม่ธรรมดา กาแฟทูบามีรสชาติที่มีความเผ็ดอย่างน้อย 1 ใน 4 ส่วนของกาแฟทั่วไป ซึ่งทำให้มันเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักในหมู่คนที่หลงใหลในรสชาติที่ไม่ซ้ำกันของกาแฟที่มาพร้อมกับรสเผ็ดน้อยๆ นี้ การบรรจุและการเตรียมกาแฟทูบาก็เป็นวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมันมีการเตรียมในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร และมีการบรรจุที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ในการดื่มกาแฟให้มีความท้าทายและน่าสนใจขึ้น
กาแฟผสมชา (Yuenyeung)
กาแฟผสมชาหรือที่เรียกกันว่า “Yuenyeung” เป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะเฉพาะและเป็นที่นิยมในฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการกาแฟและชาของชาวไทย มันเป็นการผสมระหว่างกาแฟเข้มและชาดำหรือชาซีลอนในสัดส่วนที่แตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งช่วยให้เกิดรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รสชาติจะเต็มไปด้วยความกลมกล่อมจากกาแฟและความหอมหวานจากชา ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่เข้ากันได้กับคนที่ชอบทั้งกาแฟและชาอย่างเป็นพิเศษ
Yuenyeung ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวัฒนธรรมและการดำรงอยู่ของชาวฮ่องกง มีตำนานที่เชื่อกันว่าชื่อมาจากภาษาจีนซึ่งหมายถึงนกเป็ดน้ำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความสามัคคี ดังนั้น Yuenyeung จึงเปรียบเสมือนการผสมระหว่างกาแฟและชาที่เป็นคู่สร้างสรรค์และเข้ากันได้อย่างลงตัว เหมือนกับนกเป็ดน้ำที่มีความสัมพันธ์แบบนี้จนถึงตลอดชีวิต
นอกจากนี้ Yuenyeung ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีความสามารถในการปรับปรุงรสชาติตามแต่ชอบ โดยสามารถเพิ่มหรือลดความหวานได้ตามต้องการของแต่ละบุคคล ทำให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นในร้านกาแฟต่าง ๆ ร้านอาหารไทย หรือแม้แต่ในร้านสตาร์บัคที่มีทั่วโลก ทำให้คนทั่วโลกได้มีโอกาสลองรสชาติของ Yuenyeung ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความรู้สึกของชาวฮ่องกงได้โดยตรง
สูตรกาแฟผสมชา (Yuenyeung):
ส่วนผสม:
- กาแฟเข้ม 3 ส่วน
- ชาดำหรือชาซีลอน 7 ส่วน
- น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม (ตามความชอบ)
- น้ำแข็ง (ถ้าต้องการดื่มแบบเย็น)
ขั้นตอนการทำ:
- ต้มน้ำให้เดือด
- ชงกาแฟเข้มในเชือกกาแฟ
- ชงชาดำหรือชาซีลอนในเชือกชา
- ผสมกาแฟและชาในสัดส่วน 3 ส่วน : 7 ส่วน
- เติมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมตามความชอบและคนให้เข้ากัน
- เติมน้ำแข็งถ้าต้องการดื่มแบบเย็น
- เสริฟ์ทันทีและลิ้มรสกาแฟผสมชาแสนอร่อย!
หมายเหตุ: สามารถปรับสัดส่วนและความหวานได้ตามความชอบของแต่ละคน
กาแฟเซเชอร์ (Sacher Coffee)
กาแฟเซเชอร์ (Sacher Coffee) เป็นเมนูกาแฟที่มีชื่อเสียงมากในวงการกาแฟโลก มีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เซเชอร์ตำรับขนมหวานชื่อดังได้ถูกคิดค้นขึ้นมา กาแฟเซเชอร์เป็นการผสมผสานระหว่างกาแฟร้อนที่เข้มข้นและสูตรของขนมชื่อเดียวกัน ที่มีชื่อเสียงในการบริการของโรงแรม Sacher ในเวียนนา.
ส่วนประกอบหลักของกาแฟเซเชอร์จะประกอบไปด้วยกาแฟที่ชงเข้มข้น รับรองความเป็นกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น ร่วมกับโรยหน้าด้วยฟองนมสดหรือครีมชีสที่เข้มข้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กาแฟเซเชอร์มีลูกค้าหลายคนชื่นชอบ เพราะรสชาติที่เข้มข้นและความหอมของกาแฟที่ได้กลับประสบความสำเร็จในการบริการตามมาเพราะ
สถานที่ที่จะเพลิดเพลิน: Café Sacher Wien
ที่อยู่: Philharmoniker Str. 4, 1010 เวียนนา, ออสเตรีย
อะโวลาเต้ (Avolatte)
อะโวลาเต้ เป็นเมนูเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนชาวอินเตอร์เน็ต โดยเป็นการผสมระหว่างกาแฟลาเต้และผลอะโวคาโด โดยที่กาแฟลาเต้จะถูกนำมาผสมกับนมหรือนมถั่วเหลือง และนำเข้าไปในลูกอะโวคาโดที่เตรียมไว้ โดยผลอะโวคาโดจะถูกทำความสะอาดและเอาเมล็ดออกไปก่อน เพื่อให้สามารถบรรจุกาแฟลาเต้ได้เต็มที่
เมนูนี้เริ่มมีกำเนิดขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทั่วโลก การเสิร์ฟ Avolatte ในผลอะโวคาโดทำให้เกิดลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และดึงดูดความสนใจจากผู้คน ทำให้เกิดการพูดถึงและกระตุ้นความสนใจในสังคมออนไลน์อย่างมาก
แม้ว่า Avolatte จะเป็นเมนูที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ก็มีความคิดเห็นและการพูดถึงที่แบ่งกันอยู่ บางคนชื่นชมความเป็นเอกลักษณ์และความสดใหม่ของเมนูนี้ ในขณะที่บางคนก็มีความคิดเห็นเชิงลบและถือว่าเป็นเพียงแค่เทรนด์ในช่วงเวลาใดๆ
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และความนิยมที่กำลังเพิ่มมากขึ้น เมนู Avolatte ยังคงเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกต้องรู้จักและสนใจต่อไป
วัตถุดิบ:
- กาแฟลาเต้ 1 ช้อนโต๊ะ
- นมสดหรือนมถั่วเหลือง 1 ถ้วย
- ผลอะโวคาโด 1 ลูก (ที่มีเมล็ดออกแล้ว)
- น้ำตาล (ตามชอบ)
ขั้นตอนการทำ:
- ต้มนมหรือนมถั่วเหลืองให้ร้อนจนเดือดในกระทะขนาดใหญ่
- ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วใส่กาแฟลาเต้ลงไป คนให้เข้ากันให้ดี
- ตักกาแฟลาเต้ที่ผสมกับนมออกจากไฟ พักไว้ให้เย็นลง
- ทำความสะอาดผลอะโวคาโดและเอาเมล็ดออกให้หมด
- เท Avolatte ลงในผลอะโวคาโดที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มน้ำตาลตามชอบ
- เสิร์ฟพร้อมดื่ม
กาแฟเกลือทะเล (Coffee with Sea Salt)
กาแฟเกลือทะเลเป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะแปลกตาและน่าสนใจ เนื่องจากการผสมระหว่างรสชาติของกาแฟเข้มข้นกับความเค็มจากเกลือทะเล ทำให้ได้รสชาติที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ เกลือทะเลช่วยเพิ่มความพิเศษให้กาแฟด้วยรสเค็มเล็กน้อยที่สมดุลกับความขมของกาแฟเข้มข้นได้ดี
การดื่มกาแฟเกลือทะเลมักจะมีความแปลกใหม่ในการประสบการณ์ของผู้ที่ชอบความพิเศษและต้องการลองสิ่งใหม่ๆ ในเครื่องดื่มของตนเอง
เมนูกาแฟเกลือทะเล
ส่วนประกอบ:
- กาแฟ: ใช้กาแฟชนิดที่ชอบเข้มข้น เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่หอมและเข้มข้นตามความชอบ
- เกลือทะเล: ใช้เกลือทะเลสมุทรภูเขาไฟหรือเกลือทะเลชนิดที่มีลักษณะของมินเนอรัลสาหร่ายหรืออื่น ๆ ที่ชอบ
- น้ำร้อน: ใช้น้ำร้อนที่เพิ่มกาแฟลงไปได้ที่สุด
ขั้นตอนการทำ:
- ชงกาแฟ: ใช้เครื่องชงกาแฟตามปกติ ใส่กาแฟที่คั่วเข้มข้นลงไปในตวงหรือถ้วยที่เตรียมไว้
- เตรียมเกลือทะเล: หยอดเกลือทะเลลงในกาแฟที่ชงเล็กน้อย เพื่อให้ความเค็มพอดีกับรสชาติของกาแฟ
- ครีมหรือนม: หากต้องการสามารถเติมครีมหรือนมสดลงไปเพื่อเสริมรสชาติและความกลมกล่อมของกาแฟ
- คนให้เข้าเท่าเทียม: คนให้กาแฟและเกลือทะเลให้เข้ากันอย่างดี แล้วครีมหรือนมและเกลือทะเลต้องเป็นเหมือนกัน
กาแฟสีฟ้า (Blue Coffee)
กาแฟสีฟ้าเป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมในชุมชนชาวเครื่องดื่มที่ชื่นชอบความพิเศษและสีสันที่น่าสนใจ การทำให้กาแฟมีสีฟ้าเกิดจากการผสมส่วนประกอบเฉพาะที่ทำให้สารเคมีที่มีสีเขียวหรือฟ้าปรากฏอย่างชัดเจนในกาแฟที่ชงออกมา
เมนูกาแฟสีฟ้า
ส่วนประกอบ:
- กาแฟ: ใช้กาแฟชนิดที่ชอบเข้มข้น เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่หอมและเข้มข้นตามความชอบ
- พื้นที่สำหรับการผสมสี: ใช้เครื่องปั่นอาหารหรือกาแฟเอสเพรส
- สารเคมีที่มีสี: เช่น สารกลิ่นที่มีสีเขียวหรือฟ้า เช่น Butterfly Pea Extract หรือสารกลิ่นที่มีสีธรรมชาติอื่น ๆ ที่มีสีสันที่สามารถใช้สร้างกาแฟสีฟ้าได้
ขั้นตอนการทำ:
- ชงกาแฟ: ใช้เครื่องชงกาแฟตามปกติ ใส่กาแฟที่คั่วเข้มข้นลงไปในตวงหรือถ้วยที่เตรียมไว้
- เตรียมสารเคมีที่มีสี: ใส่สารเคมีที่มีสีลงในถ้วยหรือตวงที่ใส่กาแฟ ลองใส่เล็กน้อยในต้นกาแฟ
- คนให้เข้าเท่าเทียม: คนให้กาแฟและสารเคมีที่มีสีให้เข้ากันอย่างดี โดยการคนกาแฟจนสารเคมีที่มีสีละลายเข้ากับกาแฟ
- เพิ่มความพิเศษ: หากต้องการสามารถเติมนมหรือน้ำตาลลงไปเพื่อเสริมรสชาติและความกลมกล่อมของกาแฟ
กาแฟสีฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบลองสิ่งใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเมนูกาแฟที่ไม่เหมือนใคร
กาแฟขี้ช้าง (Elephant Dung Coffee)
กาแฟขี้ช้างหรือที่เรียกอีกชื่อว่ากาแฟขี้ชะมด เป็นกาแฟที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการกาแฟทั่วโลก ชื่อเต็มของกาแฟชนิดนี้คือ Kopi Luwak ซึ่งมาจากชื่อภาษาอินโดนีเซียซึ่งหมายถึงชะมด. กรรมวิธีการผลิตกาแฟขี้ช้างนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากการที่ผลลิขภัณฑ์กาแฟนี้ถูกผลิตด้วยการใช้ชะมดเป็นตัวกลางในกระบวนการการคั่วเมล็ดกาแฟ.
กระบวนการผลิตกาแฟขี้ช้างเริ่มต้นจากการให้ชะมดกินผลกาแฟสด ซึ่งชะมดมักจะเลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี หลังจากที่ชะมดได้รับเมล็ดกาแฟแล้ว มันจะผ่านกระบวนการย่อยอาหารซึ่งช่วยลดความเข้มข้นของกาเเฟอีนในเมล็ดกาแฟ ทำให้กาแฟที่ได้มีลักษณะเป็นกาแฟที่อ่อนนุ่มและมีลักษณะกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
สำหรับราคากาแฟขี้ช้างนั้นมีราคาที่สูงมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะกระบวนการผลิตที่ละเอียดและต้องการเวลานานในการรอให้ชะมดขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการที่มีความเป็นเอกลักษณ์นี้ยังมีจำนวนจำกัด ทำให้เป็นสิ่งที่โด่งดังและน่าสนใจในวงการผู้ที่รักในกาแฟทั่วโลก
สรุป
บทความข้างต้นได้สำรวจถึงกาแฟแปลก ๆ ที่มีชื่อที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ที่คนหลายคนอาจไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน โดยที่แต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัวและรสชาติที่แตกต่างกัน การรู้จักและสำรวจกาแฟที่มีชื่อแปลก ๆ อาจเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจสำหรับคนที่หลงใหลในโลกของกาแฟ