สูตรทำเค้กกาแฟ: เคล็ดลับทำเค้กหอมกรุ่นและนุ่มฟู

ในฐานะเชฟขนมไทยที่คลุกคลีอยู่ในครัวและรักการทำขนม การผสมผสานกลิ่นหอมละมุนของกาแฟเข้ากับเค้กเป็นสิ่งที่ทำให้เค้กธรรมดากลายเป็นความพิเศษที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้รับประทานได้เสมอ เค้กกาแฟ ไม่ใช่เพียงแค่ขนมหวานทั่วไป แต่เป็นการถ่ายทอดรสชาติและกลิ่นหอมที่สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างความหวาน นุ่มนวล และความเข้มข้นของกาแฟ ในบทความนี้ฉันจะพาทุกคนเข้าสู่โลกของการทำเค้กกาแฟ ตั้งแต่วัตถุดิบ เทคนิคพิเศษ ไปจนถึงการตกแต่งอย่างมืออาชีพ รับรองว่าทุกคนสามารถทำตามได้แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

Table of Contents

เสน่ห์ของเค้กกาแฟ: ความหอมที่ไม่เคยจางหาย

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ดื่มกาแฟทุกเช้าหรือเป็นคนที่หลงใหลในขนมหวาน การได้ลิ้มรสเค้กที่มีรสกาแฟจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสกลิ่นหอม เค้กกาแฟ เป็นขนมที่ผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลของเนื้อเค้กและความเข้มข้นของกาแฟที่ทำให้ทุกคำที่กัดเข้าไปเต็มไปด้วยความทรงจำ ไม่แปลกใจเลยที่เค้กชนิดนี้จะเป็นที่นิยมและเหมาะสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ

การเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด: เคล็ดลับจากเชฟขนมไทย

วัตถุดิบคือหัวใจสำคัญของการทำขนม เค้กกาแฟ ที่หอมและอร่อยไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาแฟอย่างเดียว แต่การเลือกไข่ นม แป้ง และวัตถุดิบอื่นๆ ล้วนมีบทบาทสำคัญ ฉันมักแนะนำให้เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ โดยเฉพาะไข่และนมสด เพราะจะทำให้เนื้อเค้กมีความนุ่มและหอมมากขึ้น

  • กาแฟ: ควรเลือกกาแฟที่มีคุณภาพสูง โดยสามารถใช้กาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟชงสด แต่ถ้าใช้กาแฟสำเร็จรูปให้แน่ใจว่าเป็นกาแฟชนิดที่มีความเข้มข้นดี
  • แป้งเค้ก: ควรใช้แป้งเค้กที่มีโปรตีนต่ำ เพราะจะทำให้เนื้อเค้กเบาและฟูนุ่ม
  • เนย: เลือกใช้เนยแท้ 100% เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและหอมมัน

สูตรพื้นฐานเค้กกาแฟที่ไม่ควรพลาด

เค้กกาแฟเนื้อนุ่มฟู ลื่นคอ (รวมสูตร)

ก่อนที่จะเจาะลึกไปถึงเคล็ดลับและสูตรขั้นสูง ขอแนะนำสูตรพื้นฐานสำหรับเค้กกาแฟที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ

วัตถุดิบ (สำหรับเค้กขนาด 2 ปอนด์)

  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม
  • แป้งเค้ก 100 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • กาแฟสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ (ละลายในน้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ)
  • นมสด 50 มิลลิลิตร
  • เนยละลาย 50 กรัม
  • กลิ่นกาแฟ 1 ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีม 300 กรัม (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำ

  1. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟูและสีอ่อนลง
  2. ใส่กาแฟที่ละลายแล้วและนมสด ตีต่อจนเข้ากัน
  3. ร่อนแป้งกับผงฟูแล้วค่อยๆ ตะล่อมลงไปในส่วนผสมไข่
  4. ใส่เนยละลายลงไปทีละน้อย ตะล่อมจนเข้ากันดี
  5. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที หรือจนเค้กสุก
  6. นำเค้กออกมาพักให้เย็น แล้วตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมตามชอบ
See also  ปลาดุกผัดพริกแกง: อร่อยเป็นจิตใจของความเผ็ดร้อนในครัวไทย

เคล็ดลับในการตีไข่และน้ำตาลเพื่อให้เนื้อเค้กฟูเบา

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการทำ เค้กกาแฟ หรือเค้กใดๆ คือการตีไข่และน้ำตาลให้ฟู จนเกิด “ริบบอนสเตจ” ซึ่งจะช่วยให้เค้กมีเนื้อฟูและนุ่ม การตีที่ถูกต้องคือการใช้ความเร็วปานกลางและสังเกตว่าเนื้อส่วนผสมควรยกตัวขึ้นมาและหยดลงไปเหมือนริบบอนที่ลอยอยู่บนผิวหน้าเค้ก หากตีไม่ถึงจะทำให้เนื้อเค้กหนักและไม่นุ่มตามที่ต้องการ

กาแฟชนิดไหนเหมาะกับการทำเค้กกาแฟ?

หลายคนมักถามว่า “กาแฟชนิดไหนที่เหมาะกับการทำเค้ก?” จากประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน การใช้กาแฟสำเร็จรูปเป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวก อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเครื่องชงกาแฟหรือชอบกลิ่นของกาแฟสด ฉันแนะนำให้ใช้ เอสเพรสโซ่ หรือกาแฟที่มีความเข้มข้นในการทำเค้กเพื่อให้กลิ่นหอมชัดเจนและรสชาติที่หนักแน่น

การเลือกแม่พิมพ์และเทคนิคในการอบเค้กให้พอดี

เค้กที่ฟูสวยไม่เพียงแค่ขึ้นอยู่กับสูตรและวัตถุดิบเท่านั้น แต่การเลือกแม่พิมพ์และการควบคุมอุณหภูมิของเตาอบก็มีความสำคัญมาก หากคุณต้องการเค้กที่ฟูเต็มที่ ฉันแนะนำให้ใช้แม่พิมพ์ที่ไม่ใหญ่เกินไปและควรเคาะแม่พิมพ์เบาๆ เพื่อไล่ฟองอากาศก่อนนำเข้าอบเสมอ นอกจากนี้ การอบเค้กควรใช้ไฟบน-ล่างแบบไม่มีพัดลม เพื่อให้เค้กอบสุกอย่างทั่วถึง

วิปปิ้งครีมกาแฟ: วิธีทำและเทคนิคการตีให้ฟู

การทำวิปปิ้งครีมกาแฟที่ฟูและคงรูปอยู่ได้นานเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน ฉันมักแนะนำให้ใช้วิปปิ้งครีมเย็นจัดและตีด้วยความเร็วปานกลาง การเติมผงกาแฟที่ละลายในน้ำร้อนแล้วลงไปในวิปปิ้งครีมจะทำให้ครีมมีรสชาติเข้มข้นของกาแฟ นอกจากนี้ การใช้ น้ำตาลไอซิ่ง แทนการใช้ครีมหวานธรรมดาจะช่วยให้ครีมตั้งยอดและไม่ละลายง่าย

ตกแต่งเค้กกาแฟอย่างไรให้สวยเหมือนมือโปร

การตกแต่งเค้กเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ คุณสามารถตกแต่ง เค้กกาแฟ ด้วยวิปปิ้งครีม ดาร์กช็อกโกแลต หรืออัลมอนด์สไลซ์ได้ตามความชอบ หากต้องการเพิ่มความสวยงาม ฉันแนะนำให้ใช้ถุงบีบครีมเพื่อตกแต่งลายให้เค้กดูหรูหรา หรือใช้เทคนิค ดริปกานาช โดยการเทช็อกโกแลตละลายลงบนขอบเค้กให้ไหลลงมาดูเป็นธรรมชาติ

ความสำคัญของการพักเค้กก่อนตกแต่ง

หลังจากอบเค้กเสร็จแล้ว หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามคือการพักเค้กให้เย็นสนิทก่อนที่จะทำการตกแต่ง หากเค้กยังอุ่นอยู่ การใส่วิปปิ้งครีมหรือกานาชอาจทำให้ครีมละลายได้ ฉันมักจะนำเค้กไปแช่เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการตกแต่ง เพื่อให้เค้กเซตตัวและตกแต่งได้ง่ายขึ้น

เค้กกาแฟ หน้าวิปครีมชีส: สูตรและวิธีทำอย่างละเอียด

เค้กอัลมอนด์กาแฟ - baketobeyond

สูตรเค้กกาแฟ

วัตถุดิบ

  • แป้งเค้ก 90 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • ผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 4 ฟอง (เบอร์ 2)
  • น้ำตาล 40 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • นมสด 70 กรัม
  • น้ำมันพืช 50 กรัม

สำหรับไข่ขาว

  • ไข่ขาว 4 ฟอง
  • น้ำตาล 60 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา (หรือครีมออฟทาร์ทาร์)
See also  ผัดกระเพราหมูสับพริกแห้ง: เคล็ดลับในการผัดอาหารเมืองไทย

วิธีทำ

  1. เตรียมส่วนผสมแห้ง: ร่อนแป้งเค้ก, ผงฟู, และผงกาแฟเข้าด้วยกันแล้วพักไว้
  2. ผสมไข่แดง: ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนเข้ากันดี ใส่นมสดและน้ำมันพืชลงไปแล้วตีต่อจนเข้ากัน
  3. รวมส่วนผสมแห้ง: เติมส่วนผสมแห้งที่ร่อนไว้ลงในส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมให้เข้ากันจนเนื้อแป้งเนียน
  4. เตรียมไข่ขาว: ตีไข่ขาวกับน้ำมะนาว (หรือครีมออฟทาร์ทาร์) จนเริ่มมีฟองหยาบ จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลลงไป ตีจนตั้งยอดแข็ง
  5. ผสมไข่ขาว: แบ่งไข่ขาวประมาณ 1/3 ส่วนลงในส่วนผสมแป้งแล้วตะล่อมให้เข้ากันเบาๆ ตามด้วยไข่ขาวที่เหลือ ตะล่อมจนเข้ากัน
  6. อบเค้ก: เทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้แล้วเคาะให้ฟองอากาศออก อบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 35-40 นาที หรือจนเค้กสุก
  7. พักเค้ก: หลังจากอบเสร็จแล้ว นำเค้กออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท

สูตรหน้าวิปครีมชีส

วัตถุดิบ

  • ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
  • วิปปิ้งครีม (1) 30 กรัม
  • ครีมชีส 180 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 300 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 90 กรัม
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา

หมายเหตุ: หากใช้วิปปิ้งครีมแบบ non-dairy ให้ลดน้ำตาลไอซิ่ง

วิธีทำ

  1. เตรียมผงกาแฟ: ผสมผงกาแฟกับวิปปิ้งครีม (1) แล้วพักไว้
  2. ตีครีมชีส: ตีครีมชีสให้เนียนและนุ่ม เติมน้ำตาลไอซิ่งและเกลือ ตีให้เข้ากัน
  3. เพิ่มวิปปิ้งครีม: ค่อยๆ ใส่วิปปิ้งครีมลงไปในครีมชีส ตีจนเข้ากันและครีมเริ่มตั้งยอดอ่อน
  4. ผสมผงกาแฟ: ใส่ส่วนผสมผงกาแฟที่เตรียมไว้ลงไปในครีมชีส ตีจนเข้ากันดี
  5. ระวังการตี: ตีจนครีมชีสกับวิปปิ้งครีมเข้ากันดีและตั้งยอดอ่อน อย่าตีมากเกินไปเพราะอาจทำให้ครีมกลับสู่สภาพเหลว
  6. แช่เย็น: หลังจากทำเสร็จแล้ว ครีมชีสจะต้องแช่ในตู้เย็นเพื่อให้ครีมเซตตัว

การตกแต่ง

  • ทาหน้าครีม: เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้ว ทาหน้าด้วยวิปครีมชีสที่เตรียมไว้
  • การเก็บรักษา: แช่เค้กที่ตกแต่งแล้วในตู้เย็นจนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับ: การใช้ถาดขนาด 8×8 นิ้วจะช่วยให้เค้กได้ความหนาที่เหมาะสมและสุกทั่วถึง

เค้กกาแฟหน้านิ่ม: สูตรชิฟฟ่อนเนื้อฟูพร้อมซอสกาแฟ

เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ

วัตถุดิบ

  • กาแฟ 3 ช้อนชา (3 กรัม)
  • น้ำร้อน 1 ช้อนโต๊ะ (20 กรัม)
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา (1 กรัม)
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
  • นมข้นจืดหรือนมสด 5 ช้อนโต๊ะ (75 กรัม)
  • น้ำมัน 5 ช้อนโต๊ะ (50 กรัม)
  • แป้งเค้ก 7 ช้อนโต๊ะ (105 กรัม)
  • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ (75 กรัม)
See also  กาแฟรสส้ม: เมนูสดชื่นที่คุณทำเองได้ที่บ้าน

วิธีทำ

  1. เตรียมกาแฟ: ผสมกาแฟกับน้ำร้อนแล้วคนให้ละลายดี พักให้เย็น
  2. เตรียมไข่: แยกไข่แดงและไข่ขาว ไข่แดงตีผสมกับน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ จนน้ำตาลละลายดี ใส่นมข้นจืดหรือนมสดและน้ำมันลงไป ตีให้เข้ากัน
  3. ผสมแป้ง: ร่อนแป้งเค้กแล้วเติมลงในส่วนผสมไข่แดง ตีให้เข้ากันจนเนื้อแป้งเนียน
  4. ตีไข่ขาว: ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงในไข่ขาว ตีจนเริ่มเป็นฟองหยาบ จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ ตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
  5. ผสมไข่ขาว: แบ่งไข่ขาวประมาณ 1/3 ส่วนลงในส่วนผสมไข่แดงแล้วตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ ใส่ไข่ขาวที่เหลือ ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน
  6. อบเค้ก: เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้แล้วอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที หรือจนเค้กสุก
  7. พักเค้ก: หลังจากอบเสร็จแล้ว นำเค้กออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท

ซอสกาแฟ

วัตถุดิบ

  • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ (60 กรัม)
  • ผงวุ้น 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ (75 กรัม)
  • กาแฟ 3 ช้อนชา (4 กรัม)
  • นมข้นจืด 9 ช้อนโต๊ะ (135 กรัม)
  • แป้งกวนไส้ 1 ช้อนโต๊ะ (10 กรัม)
  • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ (20 กรัม)
  • เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)

วิธีทำ

  1. เตรียมวุ้น: ผสมผงวุ้นกับน้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ แล้วตั้งไฟกลางจนผงวุ้นละลาย
  2. ทำซอสกาแฟ: ใส่น้ำตาลและกาแฟลงไปในส่วนผสมวุ้น คนให้เข้ากัน
  3. ผสมแป้งกวนไส้: ผสมแป้งกวนไส้กับน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใส่ลงไปในซอสกาแฟ คนให้เข้ากันจนเริ่มข้น
  4. เติมนมข้นจืด: ใส่นมข้นจืดลงไปในซอสกาแฟ คนให้เข้ากันดี
  5. เติมเนย: ปิดไฟแล้วใส่เนยสดลงไปในซอส คนให้เนยละลายและเข้ากันดี
  6. พักซอส: ปล่อยให้ซอสกาแฟเย็นตัวลงก่อนนำไปใช้

การตกแต่งและเสิร์ฟ

  1. ทาหน้าซอส: เมื่อเค้กเย็นสนิทแล้ว นำซอสกาแฟที่เย็นตัวแล้วมาทาหน้าของเค้กให้ทั่ว
  2. การเก็บรักษา: แช่เค้กในตู้เย็นเพื่อให้ซอสเซตตัวดี ก่อนเสิร์ฟ

เคล็ดลับ: ควรใช้ถาดที่มีขนาดพอเหมาะและอบเค้กตามเวลาที่กำหนดเพื่อให้ได้เนื้อเค้กที่นุ่มฟูและซอสกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น


การทำ เค้กกาแฟ เป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ในครัวที่ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ความอร่อย แต่ยังสร้างความสุขให้กับผู้ที่รับประทานด้วย การเลือกวัตถุดิบที่ดี การใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และการตกแต่งอย่างมืออาชีพคือเคล็ดลับในการทำเค้กกาแฟที่น่าประทับใจในทุกโอกาส ขอให้ทุกคนได้สนุกกับการทำเค้กกาแฟและสามารถนำสูตรนี้ไปทดลองทำกันได้ที่บ้านค่ะ