กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อร่างกายและสมองของเราอย่างมหาศาล การกินกาแฟในเวลาที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายและสมองได้ ดังนั้น การรู้จักเวลาที่เหมาะสมในการกินกาแฟจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบ
การกินกาแฟในเวลาเช้า
เวลา 09.30 – 11.30 น.
เช้าแต่ไม่สายคือเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดื่มกาแฟ เพราะในช่วงเวลานี้ร่างกายมีการผลิตคอร์โตซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นสมองและร่างกายให้มีความสดชื่นและกระฉับกระเฉง การดื่มกาแฟในช่วงเช้าช่วยเพิ่มพลังงานและสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกินกาแฟในช่วงเที่ยง
เวลา 13.00 – 15.00 น.
ช่วงเที่ยงเมื่อร่างกายกำลังเริ่มรู้สึกง่วงโรยตัวเป็นเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟ เพื่อช่วยให้ร่างกายและสมองมีพลังงานในการทำงานต่อไป การดื่มกาแฟในช่วงเที่ยงช่วยลดความง่วงและเพิ่มความตื่นตัวได้
การกินกาแฟในช่วงบ่าย
เวลา 15.00 – 17.00 น.
ช่วงบ่ายเป็นเวลาที่กล้ามเนื้อและสมองกำลังจะหยุดลง การดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและช่วยให้รู้สึกสดชื่นและคล่องตัว
การกินกาแฟในช่วงเย็น
เวลา 17.00 – 19.00 น.
ช่วงเย็นเป็นเวลาที่ความตื่นตัวของร่างกายลดลง การดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำงานของสมองและร่างกาย
การกินกาแฟในช่วงค่ำ
เวลา 19.00 – 21.00 น.
ช่วงค่ำเป็นเวลาที่ร่างกายเริ่มจะพร้อมสำหรับการพักผ่อน การดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้อาจทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงค่ำ
ดื่ม กาแฟ อย่างไร ให้ ได้ ประโยชน์
การดื่มกาแฟอย่างมีประโยชน์นั้นเกิดขึ้นเมื่อเราทราบถึงวิธีและปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีผลเสียต่อร่างกาย เราสามารถดื่มกาแฟโดยที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกายได้โดยดูแลและปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้:
- การสังเกตอาการหลังการดื่ม: เมื่อดื่มกาแฟเสร็จแล้ว ควรสังเกตว่าร่างกายมีอาการอย่างไร เช่น ไม่ควรมีอาการตื่นตัวเกินไปหรือมีอาการเจ็บหัว มือสั่น เป็นต้น เพื่อปรับปรุงปริมาณและวิธีการดื่มให้เหมาะสมกับร่างกาย
- การควบคุมปริมาณการดื่ม: แต่ละคนมีความทนทานต่อคาเฟอีนที่แตกต่างกัน ควรรู้จำนวนแก้วกาแฟที่เหมาะสมต่อวันและการดื่มในช่วงเวลาใดที่ไม่ทำให้ร่างกายรับฤทธิ์ของคาเฟอีนมากเกินไป
- เลือกดื่มกาแฟที่เหมาะสม: ควรเลือกใช้วิธีการชงกาแฟและเลือกที่จะใช้กาแฟที่มีคุณภาพดี ดำหรืออเมริกาโนเพื่อรับประโยชน์สูงสุดจากกาแฟโดยไม่มีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมเช่นน้ำตาลหรือครีมเทียม
- การหลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงเวลาไม่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงเย็นหรือก่อนนอนเพื่อป้องกันการรบกวนการนอนหลับ
- การบำรุงร่างกายเพื่อป้องกันผลกระทบ: การบำรุงร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมเพียงพอและผักผลไม้เพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียแคลเซียมจากการดื่มกาแฟและช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้
การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การดื่มกาแฟเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพในระยะยาวโดยไม่มีผลเสียอื่นๆ ตามมา และยังช่วยให้รู้ถึงข้อจำกัดและวิธีป้องกันผลกระทบที่เป็นไปได้จากการดื่มกาแฟอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง
ไม่ควรดื่มกาแฟตอนท้องว่าง เนื่องจากกาแฟมีคาเฟอีนที่สามารถกระตุ้นการหลั่งกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหารมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้:
- เพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร: เมื่อเราดื่มกาแฟตอนท้องว่าง กาแฟจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดไฮโดรคลอริกมากขึ้น ซึ่งกรดนี้ทำหน้าที่สร้างสภาวะเป็นกรดในกระเพาะอาหารเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
- เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร: แม้ว่ากระเพาะอาหารจะมีการสร้างเมือกเพื่อป้องกันไม่ให้กรดทำลายผิวกระเพาะ แต่หากมีการหลั่งกรดมากเกินไป เมือกอาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันการทำลายนี้ ทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
- ความรู้สึกไม่สบายท้อง: การดื่มกาแฟตอนท้องว่างสามารถทำให้รู้สึกไม่สบายท้องหรือมีอาการปวดท้องได้ เนื่องจากกรดที่หลั่งออกมามากเกินไปจะกระตุ้นกระเพาะอาหารและทำให้รู้สึกปวด
- เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร: หากดื่มกาแฟขณะท้องว่างเป็นประจำ อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารจากการหลั่งกรดที่มากเกินไปอย่างต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ควรหาอาหารหรือขนมรองท้องก่อนหรือขณะดื่มกาแฟ เช่น ขนมปัง แซนวิช หรือกล้วย เพราะอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดซับกรดและลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ การกินอาหารก่อนดื่มกาแฟจะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้มากที่สุด ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพในกระเพาะอาหาร.
สรุป
การรู้จักเวลาที่เหมาะสมในการกินกาแฟเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีสมองและร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกเวลาที่เหมาะสมในการกินกาแฟอย่างมีสติและคำนึงถึงสุขภาพของตัวเองไว้เสมอ โดยประโยชน์ที่ได้รับจากการกินกาแฟขึ้นอยู่กับปริมาณและเวลาที่ดื่มอย่างมีสมองและร่างกายช่วยกันยึดมั่นสุขภาพให้ดีขึ้น