กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่โด่งดังและนิยมมากในทุกวันนี้ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับความไวต่อคาเฟอีน การดื่มกาแฟอาจกลายเป็นปัญหาสำหรับสุขภาพ ในทางกลับกัน Decaf กาแฟหรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนกลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพวกเขา ในบทความนี้เราจะไปรู้จักกับ Decaf กาแฟเพิ่มเติม
Decaf กาแฟคืออะไร?
Decaf กาแฟหรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน เป็นกาแฟที่ผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณคาเฟอีนในกาแฟลงมากที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดื่มกาแฟได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคาเฟอีนที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ
วิธีการสกัดคาเฟอีนใน Decaf กาแฟ
มีหลายวิธีในการสกัดคาเฟอีนออกจากกาแฟ เช่นการใช้น้ำ (Swiss Water), การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), และการใช้สารเคมี (Sovent) แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการใช้น้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากวิธีเหล่านี้มักจะให้ผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่คล้ายกับกาแฟปกติมากที่สุด
ประโยชน์ของ Decaf กาแฟ
- ช่วยลดความรู้สึกอยากกาแฟ: Decaf กาแฟยังคงมีรสชาติและกลิ่นที่คล้ายกับกาแฟปกติ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากดื่มกาแฟแต่ไม่ต้องการรับประสบการณ์จากคาเฟอีน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ: คล้ายกับกาแฟปกติ Decaf กาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายจากอันตรายของอนุมูลอิสระ
- ประโยชน์ทางสุขภาพ: Decaf กาแฟยังมีสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี 3 โพแทสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม เป็นต้น
- ไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียง: สำหรับผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน Decaf กาแฟไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่เกิดจากคาเฟอีน เช่น อาการใจสั่น นอนไม่หลับ หรือคลื่นไส้
วิธีการทำ Decaf กาแฟ
กระบวนการสกัดคาเฟอีนใน Decaf กาแฟมีความซับซ้อนและต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ Liquid CO2 process ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นต
ข้อแตกต่างระหว่าง กาแฟไม่มีคาเฟอีน กับ กาแฟปกติ
การแตกต่างหลักระหว่างกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) กับกาแฟปกติอยู่ที่ปริมาณของคาเฟอีนภายในกาแฟ ในกาแฟปกติจะมีปริมาณคาเฟอีนที่สูงขึ้น เนื่องจากคาเฟอีนเป็นส่วนที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้ร่างกายตื่นเต้นและมีพลังงานมากขึ้น ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นเหตุให้บางคนรู้สึกไม่สบายหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับเมื่อดื่มกาแฟในปริมาณมาก
อย่างต่างหากกาแฟไม่มีคาเฟอีน มีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยมาก หรือมีแทบไม่เลย ทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายน้อยลง เฉพาะกับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในการบริโภค เช่น ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับคาเฟอีน เช่น โรคหัวใจ โรคกระเพาะ หรือความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ กาแฟไม่มีคาเฟอีนยังเหมาะสำหรับบุคคลที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรด้วย เนื่องจากคาเฟอีนสามารถส่งผ่านมารดาไปยังทารกผ่านน้ำนมที่ดื่มได้
ดังนั้น กาแฟไม่มีคาเฟอีนมักจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสุขภาพที่ดีและไม่ต้องการรับประทานคาเฟอีนในปริมาณมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานกาแฟในช่วงเวลายากลงหรือในช่วงเย็นๆ ที่ไม่อยากจะมีปัญหากับการนอนหลับในคืนวันถัดไป
กาแฟดีแคฟไม่มีคาแฟอีนเหลืออยู่เลยใช่ไหม?
กาแฟดีแคฟไม่มีคาเฟอีนเหลืออยู่เลยใช่ แต่มีคาเฟอีนอยู่ในปริมาณที่ลดลงอย่างมาก ปกติแล้ว กาแฟดีแคฟจะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ในช่วง 3-7 มิลลิกรัมต่อถ้วย โดยเปรียบเทียบกับกาแฟปกติที่มีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 70-140 มิลลิกรัมต่อถ้วย ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก นอกจากนี้ ขั้นตอนในการผลิตกาแฟดีแคฟมักจะมีการล้างคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟด้วยน้ำหรือสารทำละลายอินทรีย์ หรือใช้วิธีการเรียกว่า “Swiss Water Process” ซึ่งช่วยให้คาเฟอีนถูกสกัดออกจากเมล็ดกาแฟโดยไม่ใช้สารเคมีที่มีอันตรายให้เหลืออยู่ในกาแฟดีแคฟที่ผลิตขึ้น ดังนั้น แม้ว่ากาแฟดีแคฟจะไม่ได้ไม่มีคาเฟอีนเหลือเลย แต่ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟดีแคฟจะน้อยกว่ามากๆ ในทางกลับกัน ในกาแฟปกติ ยังคงมีปริมาณคาเฟอีนที่สูงกว่าอยู่อย่างเหมาะสม ดังนั้น การเลือกดื่มกาแฟดีแคฟสามารถช่วยลดการบริโภคคาเฟอีนให้น้อยลงได้ในแต่ละวัน โดยยังคงรับประโยชน์จากความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการของกาแฟอย่างเช่นเดียวกับกาแฟปกติได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การเลือกดื่มกาแฟดีแคฟควรพิจารณาตามความเหมาะสมและความต้องการส่วนบุคคลของแต่ละบุคคลด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีความอ่อนไหวต่อคาเฟอีนหรือมีปัญหาสุขภาพที่ต้องจำกัดการบริโภคคาเฟอีนเป็นพิเศษ ควรพิจารณาการดื่มกาแฟดีแคฟเป็นทางเลือกที่ดี.
ใครควรเลือกดื่มกาแฟดีแคฟ
คนที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในร่างกายหรือมีความไวต่อคาเฟอีนควรเลือกดื่มกาแฟดีแคฟ เช่น คนที่มีปัญหาในการนอนหรือมีอาการไมเกรนจากคาเฟอีนมากเกินไป หรือคนที่ต้องการรักษาสุขภาพหัวใจหรือลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โดยที่ยังคงได้รับประโยชน์จากสารอาหารอื่นๆ ที่มีอยู่ในกาแฟแม้ว่าจะไม่มีคาเฟอีน
กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนหรือ “กาแฟดีแคฟ” เหมาะสำหรับบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อคาเฟอีนหรือมีปัญหาสุขภาพที่ต้องจำกัดการบริโภคคาเฟอีน เช่น
- ผู้ที่มีโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือด: การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมากๆ อาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ จึงเป็นที่แนะนำให้ลดการบริโภคคาเฟอีนและเลือกดื่มกาแฟดีแคฟที่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยลง.
- ผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับ: คาเฟอีนสามารถทำให้ระบบประสาทส่วนกลางกระสับกระส่ายและเพิ่มความจุงอนได้ การดื่มกาแฟดีแคฟที่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยอาจช่วยลดอาการนอนหลับลง.
- สตรีที่มีครรภ์หรือให้นมบุตร: การบริโภคคาเฟอีนมากๆ อาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกหรือเด็กที่ให้นมบุตร ดังนั้นการเลือกดื่มกาแฟดีแคฟที่มีคาเฟอีนน้อยจึงเป็นทางเลือกที่ดี.
- ผู้ที่มีโรควิตกกังวล: คาเฟอีนสามารถทำให้ระบบประสาทกระตุ้นและเพิ่มความวิตกกังวลได้ การลดการบริโภคคาเฟอีนโดยการเลือกดื่มกาแฟดีแคฟที่มีคาเฟอีนน้อยอาจช่วยลดอาการวิตกกังวล.
- ผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในการบริโภค: หากคุณต้องการลดการบริโภคคาเฟอีนเพื่อสุขภาพหรือเหตุผลใดๆ กาแฟดีแคฟจะเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีปริมาณคาเฟอีนน้อยลง.
กระบวนการสกัดคาเฟอีนจากกาแฟ
การสกัดคาเฟอีนจากกาแฟเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีขั้นตอนหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ Decaf กาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นที่คล้ายกับกาแฟปกติ โดยมีหลายวิธีในการสกัดคาเฟอีนออกจากกาแฟ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Liquid CO2 process หรือกระบวนการสกัดโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวทำละลายคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ
ในกระบวนการ Liquid CO2 process นี้ เมื่อเมล็ดกาแฟถูกเก็บรวบรวมและเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการสกัด เมล็ดกาแฟจะถูกนำเข้าเครื่องสกัด โดยที่เครื่องสกัดจะใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในรูปของลิควิด (Liquid CO2) เป็นสารทำละลายคาเฟอีน
เมื่อเมล็ดกาแฟถูกนำเข้าเครื่องสกัด ลิควิดคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกใช้ในการสกัดคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ โดยการพ่นลิควิดคาร์บอนไดออกไซด์ไปที่เมล็ดกาแฟ ซึ่งจะทำให้คาเฟอีนที่อยู่ในเมล็ดกาแฟถูกละลายในลิควิด
เมื่อคาเฟอีนถูกละลายออกจากเมล็ดกาแฟ ลิควิดที่มีคาเฟอีนละลายอยู่จะถูกนำออกจากเครื่องสกัด และนำไปส่งผ่านระบบที่ใช้ในการทำให้ลิควิดคาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซ ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกเก็บไว้หรือทำลายต่อไปในกระบวนการอื่น ๆ ที่เหมาะสม
หลังจากที่คาเฟอีนถูกสกัดออกจากเมล็ดกาแฟแล้ว มันจะไม่มีคาเฟอีนอยู่แล้ว แต่รสชาติและกลิ่นของกาแฟจะยังคงอยู่ เมื่อใช้วิธีการ Liquid CO2 process นี้ เกือบจะไม่มีคาเฟอีนที่เหลือใน Decaf กาแฟที่ได้มา เป็นเหตุผลที่ Decaf กาแฟถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มของตน
สรุป
Decaf กาแฟเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มของตน นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย การเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ Decaf กาแฟจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและเป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพของเราได้มากขึ้น อย่าลืมลองสัมผัสประสบการณ์ของ Decaf กาแฟเพื่อสุขภาพที่ดี!
อ่านเพิ่มเติม
ความยาว Cold Brew เก็บได้กี่วัน: เคล็ดลับการเก็บรักษาและความรู้